PIMNARANICE
Artist
Welcome to the world of Pimnaranice, where art flows from the artist’s spirit. After nearly a decade without the chance to create, I have returned to art, guided by the call of my heart. Over the years, my heart would race whenever I encountered art, whether online or at exhibitions. This passion has driven me back to creating art once again. Now, I dedicate all my free time after work to crafting valuable pieces. My soul holds countless stories that I long to express through my art. My inspiration is to empower everyone to live courageously, and I hope my return to art will inspire many to embrace their lives with bravery.
-
Artist
-
Business Owner
-
Digital Marketing Stategic Planner
-
Speaker
-
Content Creator
-
Project Manager
-
Graphic Design
-
Video Editor
-
Influencer
-
Cat Lover
Artist Story Telling...
Pimnaranice Gallery began in 2024 as an art project that I initiated by winning my own heart—reconnecting with my true self. For decades, I had focused on building my life and running a beauty business, inadvertently neglecting my inner voice and authentic identity.
Since childhood, I immersed myself in art, participating in drawing competitions from a young age. However, I never created my own art pieces until later. In middle school, I earned extra money by illustrating storybooks for teachers at 100 baht per picture. By high school, my art teacher recognized my talent and guided me into competitive drawing.
Over three years, I honed my skills, competing in drawing contests at district, provincial, regional, and national levels. Despite these early successes, I abandoned my artistic dreams upon entering university, opting to study languages in the Faculty of Tourism and Hospitality due to the fear of becoming a “starving artist.” Nevertheless, my love for art persisted, and I secretly spent my free time creating and selling pet portraits on shirts and scarves, each priced at 1,590 baht. Unfortunately, my studies forced me to halt this artistic pursuit temporarily.
After graduation, I immersed myself in the cosmetics business, occasionally dabbling in art by selling Line stickers. These stickers gained popularity and attracted customers from both Thailand and abroad. However, I eventually realized that this path wasn’t my true calling.
My journey continued through the beauty business, digital marketing, and content creation. Then, the COVID-19 pandemic disrupted my cosmetics business, granting me the opportunity to return to drawing. I began with “Unicorn No.1,” although I left it unfinished as business resumed. Later, I launched a beauty clinic alongside my digital marketing ventures. During this time, consistent meditation led to a clearer understanding of my true self—what I loved, excelled at, and found joy in. This newfound awareness birthed the Pimnaranice Gallery collection. Seeing my unfinished artworks reminded me that if I claimed to love something yet left it incomplete, how could I succeed elsewhere? This realization drove me to pick up my pencils and brushes, complete my art, and share it on social media, where it received overwhelmingly positive feedback.
This experience taught me the value of creating art from the heart and producing meaningful pieces. Today, these artworks constitute the Pimnaranice Gallery collection.
My story encapsulates my artistic journey, the inspiration that fuels me today, and the birth of my brand, Realsoula. It underscores the importance of embracing one’s true self as the key to genuine success and happiness.
In conclusion, I’ve discovered my authentic self, and I want to convey to everyone that it’s never too late to find your true path. Even if you’re not currently doing what you love, understanding your genuine self can bring unimaginable joy. Clarity propels you toward your dreams faster—a happiness we’ve all been seeking.
Pimnaranice gallery เริ่มต้นขึ้นในปี 2024 เป็นงานศิลปะที่ไนซ์ได้เริ่มต้นจากการชนะใจตัวเอง
นั้นคือ การกลับมาฟังเสียงหัวใจของตัวเอง ตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา ไนซ์โฟกัสแต่
การสร้างธุรกิจด้านความงามมาโดยตลอด เร่งรีบกับการดำเนินชีวิตจนไม่ทันได้ฟังเสียงใจตัวเอง
ว่าแท้ที่จริงแล้ว ตัวตนที่แท้จริงของเราคือใคร ? ตั้งแต่เล็กจนโต ไนซ์เติบโตมากับงานศิลปะ
แข่งประกวดวาดภาพตั้งแต่เด็ก แต่ไม่เคยมีผลงานศิลปะเป็นของตัวเองเลยตั้งแต่มัธยมต้น
ไนซ์เริ่มสร้างรายได้พิเศษจากการทำงานศิลปะ คือ ช่วยอาจารย์วาดภาพทำผลงานนิทาน
รูปละ 100 บาท ได้วาดรูปนิทานหลายเล่ม ตอนนั้นดีใจมากๆเลยค่ะ ที่หาเงินหลักหลายพันได้
ตั้งแต่เด็ก จนขึ้นมัธยมปลาย ครูศิลปะเห็นถึงความสามารถจึงพาไนซ์เข้าสู่การเป็นเด็กประกวด
วาดภาพในช่วงระยะเวลา 3 ปีนั้น ไนซ์ได้เรียนรู้ทักษะด้านศิลปะมากมาย วาดภาพไปเยอะมากๆ
แข่งขันประกวดวาดภาพตั้งแต่ระดับตำบลระดับอำเภอ ระดับจังหวัด ระดับภาค จนไปถึงระดับประเทศ
ความสำเร็จในวัยเด็กนั้นก็กลายเป็นเพียงแค่ความทรงจำที่ดีของตัวเอง เพราะพอขึ้นมหาลัย ไนซ์ได้
ทิ้งความฝันในการศิลปะลงไป เพราะคำว่า “ ศิลปินไส้แห้ง “ เปลี่ยนสายตัวเองไปพัฒนาทักษะ
ด้านภาษาใน คณะวิชา ท่องเที่ยวโรงแรม และ การบิน แต่ด้วยใจที่รักในงานศิลปะ
ไนซ์ก็ไม่เคยหยุดคิดถึงงานศิลปะได้เลยใช้เวลาว่างหลังเลิกเรียน กลับมาทำงานศิลปะขายอีกครั้ง
ตอน ปี.3 โดยการวาดเป็นรูปน้องหมาน้องแมวของลูกค้าทำเป็น เสื้อและ ผ้าพันคอขายกระแสตอบรับดี
พอสมควร แต่ก็ล้มเลิกไปเพราะเรียนค่อนข้างหนัก พอหลังจากจบการศึกษาประดับปริญญาตรี
ก็ไปโฟกัสในการทำธุรกิจเครื่องสำอางเลย แต่ก็ยังมีแอบกลับมาทำ สติกเกอร์ไลน์ขายอยู่บ้าง เปลี่ยนเป็นการทำงานศิลปะในสาย Digital Art แทน ตอนนั้นขายสติกเกอร์ไลน์ก็ขายดีมากสร้างรายได้
ให้ไนซ์ถึงหลักแสนบาทเลย ลูกค้าโหลดกันใช้เป็นจำนวนมากทั้งในไทยและต่างประเทศ
มันเป็นความสำเร็จเล็กๆที่เราเก็บมันไว้ในใจส่วนลึกอยู่เสมอ แต่ก็ยังมองภาพตัวเองไม่ชัดมากพอ
ที่จะทำงานศิลปะต่อ พอกระแสสติกเกอร์ไลน์เริ่มหมด ก็เลยต้องจบไปเพราะเราคิดว่า
คงไม่ใช่ทางของเราหลังจากนั้น ไนซ์วิ่งตามหาความฝันและความสุขของตัวเองต่อในธุรกิจ
ด้านความงาม , การทำสายงานด้าน digital marketing และการเป็น content creator, influencer
ใช้เวลาหลายปี จนในช่วงโควิดที่ผ่านมา ธุรกิจเครื่องสำอางหยุดชะงัก จึงทำให้ไนซ์มีเวลาว่างมากขึ้น
ช่วงเวลาที่ว่างในช่วงนั้น ไนซ์เลยได้มีเวลากลับมาวาดภาพอีกครั้ง นั้นคือการวาดรูป Unicorn No.1
แต่ก็วาดไม่เสร็จ พอโควิดเริ่มดีขึ้น ไนซ์ก็กลับมาโฟกัสธุรกิจความงามต่อ จนมาทำธุรกิจที่2 นั้นก็คือ
ธุรกิจคลินิกความงาม ควบคู่กับการเป็น digatal marketing และ Influencer ไปด้วย ไนซ์ใช้เวลาทำ
ธุรกิจคลินิกอยู่ประมาณ 1 ปีกว่าจุดเปลี่ยนในชีวิต เริ่มตรงนี้ค่ะ ในระหว่างทำธุรกิจคลินิกไนซ์ได้
เริ่มทำสมาธิเป็นประจำ จนมาถึงวันนี้ไนซ์เริ่มได้มองเห็นตัวเองชัดขึ้น ได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง
ได้เห็นถึงอะไรที่เป็นสิ่งที่เรารัก อะไรเป็นสิ่งที่เราทำมันได้ดี อะไรเป็นสิ่งที่เรามีความสุข ไนซ์เริ่มมอง
เห็นความสุขเล็กๆที่ใกล้ตัวที่สุดของตัวเอง นั้นเป็นจุดเปลี่ยนในการสร้าง คอลเลคชั่น Pimnaranice gallery
ไนซ์ได้กลับมาวาดภาพอีกครั้ง ความคิดที่อยู่ในหัว เวลาที่เห็นภาพของตัวเองที่วางอยู่ในห้องที่ยังวาดไม่เสร็จ
คือ ถ้านี่คือสิ่งที่เราบอกมาตลอดว่าเรารักมัน เรายังทำไม่เสร็จ แล้วเราจะไปทำอะไรอย่างอื่นสำเร็จได้ยังไง? ประโยคนี้ที่ก้องอยู่ในหัวนานนับหลายอาทิตย์เลยทำให้ไนซ์ตัดสินใจชนะใจตัวเองลุกขึ้นมาจับดินสอปากกา
พู่กัน เริ่มสร้างงานที่ค้างไว้จนเสร็จ แล้วถ่ายทอดมันลง โซเซี่ยลแบบไฟท่วมตัว กลับกลายเป็นว่า
กระแสตอบรับจากทุกคนดีมาก ไนซ์จึงได้เริ่มเรียนรู้ การสร้างคุณค่าในงานศิลปะของตัวเองและการสร้างงานศิลปะที่ออกมาจากหัวใจของเราจริงๆ มันมีอิทธิพลกับตัวเราและส่งถึงผู้คนได้ หลังจากนั้นไนซ์ก็เริ่มฟังเสียงหัวใจของตัวเองชัดขึ้นเรื่อยๆ เริ่มสร้างงานศิลปะที่ทรงคุณค่า ที่ตลอดระยะเวลาตั้งแต่เล็กจนโตไม่เคยได้ทำออกมาและนั้นคือ งานศิลปะในคอลเลคชั่นของ Pimnaranice gallery ในวันนี้ค่ะ
ทั้งหมดนี้เป็นสตอรี่บางส่วนที่ไนซ์อยากถ่ายทอดถึงความเป็นมาในการทำงานศิลปะของไนซ์ และ สิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจจากตัวเองวัยเด็กจนถึงวันนี้ จึงทำให้ไนซ์ได้ตกผลึกด้านความคิด โดยตั้งชื่อ แบรนด์ตัวเองว่า Realsoula นั้นคือ จิตวิญญาณที่แท้จริงของตัวเอง แรงบันดาลใจที่เริ่มจากตัวเองที่อยากถ่ายทอดส่งมอบพลังงานนี้ถึงทุกคนให้ได้เข้าใจ และ ได้เห็นถึงความสำคัญของการเป็นตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง เพราะนั้นจะเป็นกุญแจสำคัญของชีวิตเรา ที่จะนำพาเราไปสู่จุดที่ประสบความสำเร็จ และมีความสุขอย่างแท้จริง
สุดท้ายนี้สิ่งที่ไนซ์อยากสื่อสารกับทุกท่าน “ไม่ว่าเราจะมีชีวิตแบบไหน หรือตอนนี้เป็นใคร ทำอาชีพอะไร ไม่มีอะไรสายเกินไปที่เราจะค้นหาตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง จักรวาลจัดสรรช่วงเวลาและสถานการณ์ให้เราได้เรียนรู้และตามหาชีวิตไว้เรียบร้อยแล้ว
และการที่เราได้เข้าใจตัวตนที่แท้จริงของตัวเราเอง ได้ทำสิ่งที่เรารัก มันสามารถทำให้เรามีพลัง และมีความสุขที่เราไม่เคยคิดมาก่อนและเมื่อเราเข้าใจและเห็นตัวเองได้ชัดและไว นั้นจะทำให้ชีวิตเราไปสู่ความฝันได้ไวขึ้นเช่นกัน บางทีอาจจะเป็นความสุขและความฝันที่เราตามหามันมาตลอดก็ได้ค่ะ
